นายแพทย์คิมระบุว่า นัยสำคัญของการศึกษาครั้งนี้คือเป็นการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่มีสุขภาพแข็งแรงทั้งหญิงและชาย เพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นตัวก่อเหตุให้เกิดโรคหัวใจก่อนที่จะเกิดอาการที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจขึ้นจริง ทั้งนี้ ทีมวิจัยใช้กลุ่มตัวอย่างในการศึกษามากกว่า 47,000 คน ซึ่งอยู่ในวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคน ทั้งหมดถูกขอให้บ่งบอกถึงสภาพการนอนของตัวเอง โดยทีมวิจัยตรวจสอบข้อมูลจากการตรวจสุขภาพเพื่อดูปริมาณของแคลเซียมในหลอดเลือดของกลุ่มตัวอย่าง 29,000 คน และตรวจสภาพความแข็งกรอบของหลอดเลือดของกลุ่มตัวอย่างอีก 18,000 คน
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.byrdie.com/
ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงที่นอนหลับเกินกว่า 9 ชั่วโมงขึ้นไปต่อคืน จะมีแคลเซียมในผนังเส้นเลือดและเส้นเลือดมีความแข็งกรอบมากกว่าผู้ที่นอนหลับในระดับ 7 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งแคลเซียมเกาะผนังหลอดเลือดและความแข็งกรอบของเส้นเลือดเป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคใดโรคหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจได้สูงในอนาคต ในเวลาเดียวกัน คนที่นอนหลับคืนละ 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า ก็แสดงให้เห็นความเสี่ยงทั้ง 2 ปัจจัยสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์คิมระบุว่า นอกเหนือจากการนอนหลับให้เพียงพอแล้ว คุณภาพในการนอนก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมความต้องการระยะเวลาในการนอนของคนเราไม่เท่ากัน บางคนรู้สึกว่านอนเต็มอิ่มทั้งๆ ที่ใช้เวลานอนเพียง 6 ชั่วโมงก็เป็นได้
นอกจากนั้นงานวิจัยนี้ยังไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อาทิ ภาวะซึมเศร้า หรือภาวะโรคอ้วน ซึ่งมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น